พาเที่ยวโบลิเวีย โบลิเวียประวัติ เป็นอย่างไร?

พาเที่ยวโบลิเวีย โบลิเวียมีที่มาที่ไปมาตั้งแต่ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อซะ 100 ปีก่อนคริสต์กาล จนถึงศตวรรษที่9 ชนเผ่า Aymara เป็นชนเผ่าที่อยู่อาศัย อยู่ในดินแดนโบลิเวีย ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 14 ชาวเผ่าอินคาที่ใช้ภาษา Quechua ได้เข้าผนวกชนเผ่าในโบลิเวีย เข้ากับอาณาจักรอินคาก่อนการมาถึงของสเปนในปี ค.ศ. 1535 ที่สเปนได้เข้ายึดครองโบลิเวีย เอาไว้นานถึง290 ปี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1825 โบลิเวียได้รับเอกราชอย่างเป็นทางการ จากสเปน และได้ใช้ชื่อก่อตั้งประเทศ ตามวีรบุรุษที่ชื่อ Simon Bolivar

เป็นบุคคลที่ได้ก้อบกู้อิสรภาพ และปลดแอกจากสเปน ให้กับดินแดนในอเมริกาใต้ จนกระทั่งภายหลังจึงได้ นำชื่อเขามาใช้เป็นชื่อประเทศ เพื่อเป็นเกียตริแก่เขา หลังจากได้รับเอกราชมาแล้ว โบลิเวีย ตกอยู่ภายใต้การปกครอง

ของทหารมาโดยตลอด และได้พาเข้าสู่สงครามกับชิลี ที่มีปัญหากันในเรื่องข้อพิพากดินแดน แต่ก็ต้องพ่ายแพ้และสูญเสียดินแดน ส่วนหนึ่งที่เป็นทางทะเล ติดต่อกับมหาสมุทรแปรซิฟิกให้แก่ชิลี ซึ่งมีผลต่อโบลิเวียอย่างมาก

ที่เสียโอกาสทางการค้าทะเล และส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก ต่อมาโบลิเวียได้สูญเสียดินแดนเพิ่มในปี ค.ศ. 1903 เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด Acre ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกยางพารา ที่สำคัญให้กับบราซิล และอีกครั้งในปี ค.ศ.1938

เสียดินแดนให้กับปารากวัยกว่า 100,000 ตารางไมค์ เนื่องจากผลการแพ้ในสงครามจนทำให้ปัจจุบัน ขนาดของประเทศโบลิเวีย จึงมีขนาดเล็กและไม่ติดทะเล  จากการต่อสู้แย่งเขตแดนกัน หลังจากที่ทุกประเทศในอเมริกาใต้

ปลดแอกจากสเปนแล้วนั้นเอง เหตุเพราะมรดกทางอาณานิคม ที่เข้ามาควบคุมดูแลจัดแจงพื้นที่ จนทำให้คนในท้องถิ่นเกิด ความไม่พอใจที่ตัวเอง โดนแบ่งเส้นเขตแดน พอภายหลังสเปนหมดอำนาจลง

ดินแดนในแถบนี้ไม่ต่างจากตะวันออกกลาง ที่มีสงครามแย่งเขตดินแดนกัน และในปี 2009 โบลิเวียได้เปลี่นชื่อประเทศใหม่ว่า สาธารณรัฐโบลิเวีย (Republic of Bolivia ) เป็นรัฐพหุชนชาติของโบลิเวีย (Plurinational State of Bolivia) นั้นเอง 

พาเที่ยวโบลิเวีย โบลิเวีย มี เศรษฐกิจเป็นอย่างไร?

หลังจากที่หมดยุคของสเปนไปแล้วนั้น โบลิเวีย ได้รากฐานทางการปกครอง มาจากสเปนเหมือนกับประเทศอื่นๆ ในดินแดนอเมริกาใต้ เพราะจากการควบคุมของสเปนถึง 290 ปีนั้นเอง แต่ทว่าการปกครองของโบลิเวียนั้น กลับอยู่ภายใต้รัฐทหารเผด็จการ จึงทำให้ประชาชนในโบลิเวีย มีความยากจนและอดยากอย่างมาก ถึงแม้โบลิเวียเอง

จะมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย แต่ผลประโยชน์กลับไมได้ตกมาถึงประชาชน จนกระทั่งต่อมา หมดยุคอำนาจทางทหารลงไป หลังจากที่พาประเทศตัวเอง พ่ายแพ้ให้กับสงคราม จนถึงขั้นต้องเสียดินแดนไป

อันเป็นผลกระทบต่อประเทศชาติ ต่อมาได้เปิดตลาดเสรีทางการค้าในประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนักลงทุนจากต่างประเทศ แต่ก็ถิอว่าเป็นข้อเสียทางการค้า เนื่องจากครั้งหนึ่งที่เคยเสียดินแดนติดทะเลไป

จึงทำให้การค้าขาย ยากกว่าประเทศอื่นๆในอเมริกาใต้ ที่ต้องพึ่งการส่งสินค้าไปที่เมือง Arica และ Antofagasta ในชิลี และท่าเรือ Mollendo – Matarani ในเปรู รวมถึงเส้นทางแม่น้ำอเมซอน

ที่เป็นอีกเส้นทางในการขนส่งสินค้า ด้วยความเสียเปรียบนี้เอง จึงทำให้โบลีเวียต้องยอม เหตุเพราะสงครามในครั้งก่อน ที่เสียดินแดนติดทะเลไป ทำให้ชาติต้องพึ่งประเทศรอบข้าง ในการส่งออกสินค้านั้นเอง

ปัจจุบันโบลิเวียยังคงเน้นการส่งออก ทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศ และยังมุ่งเน้นไปที่กิจการการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย เพื่อเป็นอีกทางหนึ่งที่ คอยพยุ่งเศรษฐกิจในประเทศ ให้อยู่รอดไปได้นั้นเอง

พาเที่ยวโบลิเวีย

โบลิเวีย สถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?

โบลิเวียนั้น เป็นอีกประเทศหนึ่งในอเมริกาใต้ ที่มีธรรมชาติอันสวยงาม ภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขาและป่า ความงดงามแบบธรรมชาตินี้ ไม่สามารถสร้างได้ ต้องมาดูยังที่โบลิเวียที่เดียว สถานที่เที่ยวอันเป็นไฮไลท์ ที่ทางเราจะแนะนำนั้น เป็นสถานที่ยอดนิยม ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามากัน สถานที่แรกคือ ลาปาซ (La Paz) เป็นเมืองหลวงที่มีสูงที่สุดในโลก

เพราะที่ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,250 และ 4,100 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอนดีส และศูนย์กลางของเมือง มีหุบเขาลึกลงไปกว่า 430 เมตร รู้จักกันในชื่อ ที่ราบอัลทิพลาโน (Altiplano)

ซึ่งมีความยาวติดกับอาณาเขตประเทศเปรู และโบลิเวียนั้นเอง สถาปัตยกรรมของที่นี้ ซ้อนตัวกันตามภูเขา หากมองจากมุมสูงนั้น เราจะได้เห็นความสวยงามโดยรอบ ที่มีเทือกเขาที่เต็มไปด้วยบ้านพักอาศัย

เราจะสามารถเห็นภูเขาแอนดีส ที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลา จากระยะไกลได้ชัดเจนอีกด้วย สถานที่ต่อไป ซาลาร์เดออูยูนิ (Salar de Uyuni) หรือทะเลเกลืออูยูนิ ในอดีตดินแดนนี้เคย เป็นทะเลสาบมาก่อน

จากนั้นก็แห้งระเหยไปตามกาลเวลา มีพื้นที่มากกว่า 10,000 ลูกบากศ์กิโลเมตร ที่อันกว้างใหญ่นี้ มีความหนาแน่นของเกลือ ในช่วงฤดูแล้งทะเลแห่งนี้จะแห้ง จึงทำให้เห็นผลึกเกลือ ได้อย่างชัดเจนจนเหมือนกับว่า

เป็นหิมะยังไงอย่างงั้น เป็นความสวยงามไปอีกแบบ อีกทั้งยังมีโรงแรมเกลือ ที่มีชื่อเสียง อย่าง พาลาสิโอ เดอ ซาล (Palacio De Sal) เป็นโรงแรมที่ฟอร์นิเจอร์ รวมถึงโครงสร้างทุกอย่างทำจากเกลือ

จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ของการมาท่องเที่ยวที่นี้ เราไปกันต่อที่ ทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ ที่สุดในอเมริกาใต้ ตามความเชื่อของอินคาโบราณว่า ทะเลสาบแห่งนี้คือ

บ้านเกิดของดวงอาทิตย์อีกด้วย เพราะด้วยวิวของเมือง ที่เป็นลักษะอ่าว จึงทำให้ดวงอาทิตย์ได้อย่างชัดเจน ด้วยที่ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,812 เมตร ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากๆนั้นเอง

ความสวยงามของธรรมชาตินั้น เรียกได้ว่าคุ้มค่า แต่อากาศร้อนกว่าปกติ และแสงแดดที่สูงนั้นเอง  สถานที่สุดท้ายคือ ถนนยุงกัส (Yungas Road) เส้นทางที่อันตรายที่สุดในโลก เพราะเป็นถนนที่อยู่เรียบหน้าผาถึง 4,650 เมตร

ด้วยตลอดเส้นทางที่ยาวไปกว่า 69 กิโลเมตร แต่ระดับความสูงจะลดลง เมื่อใกล้ถึงเมืองโคโรโก เป็นเส้นทางตัดผ่านป่าอเมซอน ที่ทำให้เราได้เห็นด้านล่างที่เป็นแม่น้ำ และป่าเต็มไปหมด ถนนแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็น “ถนนแห่งความตายโบลิเวีย

ชื่อฟังอาจจะดูน่ากลัว แต่สำหรับการผจญภัยแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาคุ้มค่ามากกว่า คือการได้สัมผัสธรรมชาติ และอากาศที่บริสุทธิ์ตลอดเส้นทางนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวในโบลิเวีย ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว อันเป็นธรรมชาติอีกตั้งมากมาย รอให้เราไปสัมผัสนั้นเอง

ปัจจุบันโบลิเวียเป็นอย่างไร?

จากด้วยพิษเศรษฐกิจ จากการปกครองของทหารนั้น ปัจจุบันหลังจากที่ได้จัดตั้งเป็นรูปแบบ สาธารณรัฐแล้วความเป็นอยู่ เริ่มที่จะดีขึ้นและด้วยการเปิดประเทศ เพื่อการท่องเที่ยวนั้น จึงทำให้เศรษฐกิจเริ่มที่จะดีขึ้น

ประชาชนได้ประโยชน์จาก การท่องเที่ยวปีหนึ่งไม่ต่้ำกว่าพันล้านบาท นับว่าเป็น การพัฒนาชุมชน เพื่อผลักดันให้เมืองต่างๆ มีสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งดึงดูดนักท่องเที่ยว จากทั่วโลกไปดีอีกด้วย เพราะโบลิเวียมีสภาพแวดล้อม ที่สวยงามและเป็นอะไรที่ใหม่น่าสนใจ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยนั้นเอง ถึงแม้ประเทศโบลิเวีย จะมีข้อจำกัดทางทะเล แต่ก็สามารถส่งออกสินค้าได้มาก และเป็นรายได้หลักของประเทศอีกด้วยนั้นเอง

พาเที่ยวโบลิเวีย

สรุปการเดินทาง ท่องเที่ยวในโบลิเวียเป็นอย่างไร?

ประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ อันสวยงามสไตล์ป่าดงดิบแบบอเมริกาใต้ และภูเขาแอนดีสที่เด่นตระหง่า เพียบพร้อมไปด้วยกิจกรรม ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายผจญภัย ที่ชื่นชอบการปีนเขา หรือเล่นสกี ที่นี้มีให้เราได้เลือกท้าทายหลายแบบ นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรม ร่วมถึงศึกษาประวัติศาสตร์ ของประเทศที่มีความน่าสนใจ และยังมีความเก่าแก่อีกที่หนึ่งของโลกอีกด้วย

โบลิเวียนั้นมีประวัติศาสตร์ ร่วมกับประเทศอื่นๆในอเมริกาใต้ ร่วมทั้งเชื้อสายคนในภูมิภาคนี้อีกด้วย ที่มีความคล้ายกัน เพราะด้วยการปกครองของสเปน ที่รวบแบ่งเขตการปกครอง จึงทำให้เชื้อสายดั่งเดิม ได้ถูกหล่อหลอมเข้ากับอาณานิคมนั้นเอง เราจึงได้เห็นมรดกของวัฒนธรรม ที่คนโบลิเวียนั้นถ่ายทอดออกมา ในรูปแบบอาหารก็ดีหรือแม้กระทั่งศิลปะต่างๆ

ที่ทำหน้าที่ในการบอกอัตลักษณ์ของคนในชาติ หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ศึกษาประวัติศาสตร์ เที่ยวชมธรรมชาติแนะนำว่าห้ามพลาด จึงทำให้มองว่า โบลิเวีย เป็นอีกประเทศหนึ่งในอเมริกาใต้ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

เยอะไม่แพ้ประเทศอื่นๆในอเมริกาใต้ ด้วยที่ตั้งของประเทศนั้นอยู่บนที่สูง จึงให้ความรู้สึกว่าเมืองต่างๆนั้น กำลังลอยอยู่บนฟ้า เพราะด้วยความสูง ที่มากกว่าระดับน้ำทะเล จึงทำให้เมืองต่างๆถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขานั้นเอง ในช่วงฤดูร้อนอากาศก็จะร้อนอย่างมาก เพราะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์นั้นเอง ใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ อันแสนสงบแล้วละก็ ประเทศโบลิเวียเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ที่ควรต่าแก่การมาพักผ่อน 

เที่ยวอเมริกา

สุนัขทั่วโลก

ทัวร์อเมริกา