ที่เที่ยว น่าไป กรุงปรากประวัติเป็นอย่างไร?
ที่เที่ยว น่าไป กรุงปรากนั้น มีอีกชื่อหนึ่งว่า กรุงปราฮา เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รวมถึงใหญ่เป็นอันดับ 13 ของยุโรปอีกด้วยนั้นเอง ในอดีตนั้นเป็นราชธานีของ โบฮีเมีย ตั้งอยู่บนแม่น้ำวตาวา มีประชากรทั้งหมด 2.7 ล้านคน เมืองแห่งนี้มีประวัติมาพร้อมๆกับ เมืองอื่นๆที่เกิดขึ้นในยุโรป เพราะด้วยสถาปัตยกรรมมากมาย รวมถึงผลศิลปะเกิดขึ้นในยุคไล่เลี่ยกันของยุโรป เมืองถูกสร้างขึ้นในยุคโรมาเนสก์ และเฟื่องฟูมากในสมัยกอธิค เรเนสซองส์ และบาโรก
ด้วยเมืองแห่งนี้เป็นหนึ่งใน อาณาจักรเก่าแก่อย่างโบฮีเมีย และสถานที่พำนักของเหล่าจักรพรรดิ บางพระองค์ของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เช่น ชาร์ลที่ 4 ครองราชย์อยู่ในช่วง 1346 – 1378 ด้วยมาถึงยุครื้อฟื้นศิลปะวิทยาแล้ว ทำให้ยุโรปเริ่มมาสนใจศิลปะวิทยาการ
จากโลกยุคโบราณไม่ว่าจะเป็นของอารยธรรมกรีก หรือโรมันนั้นเอง ทำให้ศิลปะการยกย่องตัวบุคคลนั้น มักถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในยุโรปนั้นเอง การประกาศศักดาของกษัตริย์คนๆหนึ่ง ให้ทั่วทั้งยุโรปได้รู้จักนั้น จะต้องมีประวัติบวกกับรูปวาดศิลปะ หรืองานปั้นต่างๆที่บ่งบอกถึง พลังภายในที่ซ้อนอยู่ในรูปภาพหรือรูปปั้นนั้นเอง ด้วยที่ตั้งของเมืองแห่งนี้เอง จึงเหมือนเป็นศูนย์กลางทาง ยุโรปตอนกลางจนไปถึงตะวันออกเลยทีเดียว จากประวัติศาสตร์ที่เมืองแห่งนี้
เคยเป็นเมืองสำคัญต่อราชวงค์ฮับสบูร์ก และจักรวรรดิออสเตรีย – ฮังการี นอกจากนี้เมืองแห่งนี้ยังมีเหตุการณ์ การปฎิวัติโบฮีเมีย และโปรเตสแตนด์ ที่เป็นสงครามกลางเมืองภายใน นอกจากนี้ยังเข้าร่วมสงคราม 30 ที่มีสมรภูมิกับเยอรมันนี ในยุโรปตอนกลางนั้นเอง
นอกจากนี้ประเทศเช็กเกีย ยังได้เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นได้รับอิทธิพล จากสหภาพโซเวียตจนกระทั่งได้เปลี่ยนขั้วการเมืองประเทศนี้ ให้เป็นระบบสังคมนิยม จนกระทั่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทำให้เมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานนั้นเอง
ที่เที่ยวของเอเชีย กรุงปรากมีความสำคัญอย่างไรในยุโรป?
ด้วยที่ตั้งของเมืองแห่งนี้ นับว่าเป็นศูนย์กลางทางอำนาจและ อิทธิพลหลายๆอย่างต่อยุโรปทางตอนกลาง อันเป็นส่วนที่มีจุดเชื่อมต่อกับ ประเทศทางโลกตะวันออกกลางด้วยนั้นเอง โดยยุโรปตอนกลางนั้นเอง มีเชื้อสายคนยุโรปที่มีเลือดของคนเอเชีย ผสมเข้าไปด้วยนั้นเอง โดยเฉพาะจักรวรรดิออสเตรีย – ฮังการี ที่ในช่วงยุคกลางนั้น ได้ถูกกลืนด้วยอารยธรรมจากชาวเอเชีย ในช่วงยุคกลางที่ชาวมองโกลได้บุกยุโรปนั้นเอง ด้วยวัฒนธรรมร่วมกันในภูมิภาคนั้น
ทำให้เมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ร่วมกับยุโรป ในหลายๆยุคด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการค้า อำนาจ และวัฒนธรรม ในดินแดนยุโรปตอนกลางด้วยนั้นเอง แต่ทว่าความขัดแย้งในยุโรป เกิดขึ้นอยู่ตลอดหลายศตวรรษ เมืองแห่งนี้เอง
ได้พบเจอกับภัยสงครามและการปิดล้อม จากการบุกแย่งชิงดินแดนกันในอดีต เพราะโลกในยุคนั้นแข่งขันกัน ปกครองดินแดนต่างๆเพื่อชิงความเป็นใหญ่นั้นเอง ทำให้ผู้คนในยุคนั้นนิยมทำสงคราม เพื่อสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้กับตัวเองนั้นเอง จึงทำให้ช่วงยุคกลาง
ไปจนถึงยุคเรเนสซองส์ มีการทำสงครามแย่งชิงดินแดนกันอยู่ตลอด จนกระทั่งโลกของเรานั้นเริ่มที่จะมีเส้นแบ่งเขต ที่ชัดเจนและมีความร่วมมือกันระหว่างประเทศมากขึ้น จึงทำให้โลกใบนี้อยู่ได้ด้วยสันติภาพนั้นเอง ถึงแม้ในปัจจุบันนี้เองจะไม่ได้มีสงครามเกิดขึ้นบ่อยๆ
เหมือนในอดีตแต่ความรุนแรงที่เกิดจากภัยสงคราม ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้างในปัจจุบัน จึงทำให้กรุงปรากแห่งนี้ เป็นเมืองที่มีความสำคัญ และอยู่รอดจากภัยสงครามต่างๆในอดีต จนกลายเป็นอีกเมืองหนึ่ง ที่กลายเป็นเมืองหลักของการท่องเที่ยว ในประเทศเช็กเกียเลยก็ว่าได้
ที่เที่ยว น่าไป กรุงปรากสถานที่ท่องเที่ยว เป็นอย่างไร?
กรุงปรากเป็นเมืองที่เก่าแก่ ตั้งอยู่บนความเจริญและเป็นศูนย์กลาง อีกแห่งหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว ด้วยสถานปัตยกรรมของเมืองแห่งนี้ ที่มีอายุเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง รวมถึงสถานที่ต่างๆในเมืองแห่งนี้ ที่ยังเป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเมืองแห่งนี้ มาอย่างยาวนานนั้นเอง นอกจากนี้ยังพาให้เห็นถึง วัฒนธรรมของที่นี้วิถีชีวิตผู้คน ในกรุงปรากที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ผสมผสานกับความเป็นอยู่แบบเก่านั้นเอง สถานที่แรกคือ ศาลาว่าการเมืองเก่า ( Old Town Hall ) เป็นศูนย์กลางทางการปกครอง ของสาธารณรัฐเช็กมาตั้งแต่ ศตวรรษที่ 20 ศาลาว่าการได้รับการก่อสร้าง ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ( Gothic ) และ เรเนสซองส์ ( Renaissance ) ศาลากลางประกอบไปด้วยอาคาร 5 หลัง
และมีหอคอยที่มีความสูงกว่า 69.5 เมตรเลยทีเดียว ปัจจุบันได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ให้ขึ้นไปชมวิวบนหอคอย ที่สามารถมองเห็นมองแห่งนี้ได้โดยรอบนั้นเอง ภายในอาคารมีภาพจิตกรรมฝาผนัง ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทาง และประวัติศาสตร์สำคัญของชาตินั้นเอง
มีการเก็บรวบรวมสิ่งของเก่าแก่ จากยุคต่างๆในประวัติศาสตร์ ให้เข้าชมได้นั้นเองด้วยราคาสองแบบ หากมีไกด์นำทัวจะต้องเสีย 250 โครูนาเซ็ก แต่ถ้าหากต้องการเข้าชมเพียงอย่างเดียว จะเสียค่าเข้า 150 โครูนาเซ็ก สถานที่ต่อไปคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ ( Astronomical Clock )
นาฬิกาแห่งนี้มีความเก่าแก่กว่า 600 ปี อยู่คู่เมืองแห่งนี้มาอย่างยาวนาน ด้วยตัวหน้าปีดนาฬิกามี 2 ส่วน อันบนบอกถึงเวลา การขึ้นลงของพระอาทิตย์ หน้าปีดด้านล่างจะบอกถึง 12 ราศี กับช่วงเวลาในเทศกาลต่างๆ คล้ายกับเป็นปฎิทินที่บ่งบอกวันต่างๆ
ซึ่งนวัตกรรมนี้มีมาอย่างยาวนาน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญทางดาราศาสตร์ ที่ชาวยุโรปเริ่มแข่งขันกัน มาอย่างยาวนานแล้วนั้นเอง ปัจจุบันนาฬิกาแห่งนี้เวลายังคงเดินอยู่เหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือน จากเสียงระฆังของรูปปั้นที่ประดับอยู่ด้านบนนาฬิกานั้นเอง
พร้อมกับภาพอัครสาวกทั้ง 12 ในอริยาบทต่างๆนั้นเอง ซึ่งเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่ง ในยุคเวลานั้นเองที่วิทยาศาสตร์ รวมถึงเรื่องดาราศาสตร์นั้น จะต้องทำควบคู่ไปกับศาสนา เพื่อให้ทุกคนทั่วไปเข้าถึง ความหมายของมันนั้นเอง นักท่องเที่ยวมักให้ความสำคัญกับสถานที่นี้มาก
ผู้คนต่างหนาแน่นเป็นอย่างมาก เพื่อมาชมนาฬิกาดาราศาสตร์แห่งนี้นั้นเอง เราไปกันต่อที่ สะพานชาร์ล ( Charles Bridge ) เป็นสะพานข้ามที่สำคัญกับเมืองนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมเมืองเข้ากับฝั่งตะวันออก มากว่าหลายร้อยปีนั้นเอง ในอดีตนั้นเป็นสะพานที่ถูกสงวน
ไว้ให้กับราชวงค์และกษัตริย์ของประเทศ ปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นอีกแลนมาร์กหนึ่ง ของเมืองแห่งนี้นั้นเอง จุดเด่นของตัวสะพานนั้น มีปติมากรรมรูปนักบุญที่ชาวเช็กนับถือ มากถึง 30 องค์ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวของแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองแห่งนี้ และสัมผัสกับบรรยากาศลมเย็น
ของแม่น้ำที่ทำให้อากาศที่นี้ร่มเย็นนั้นเอง สะพานแห่งนี้สร้างอุทิศให้กับพระเจ้าชาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันศักดิ์สิทธิ์นั้นเอง สถานที่สุดท้ายคือ ปราสาทปราก ( Prague Castle ) ในอดีตนั้นเป็นพื้นที่พำนักของเหล่าองค์กษัตริย์ จักรพรรดิ ผู้นำคนสำคัญของสาธารณรัฐเช็ก
มาอย่างยาวนานนับ 1,000 ปีเลยทีเดียว โดยบริเวณปราสาทแห่งนี้ มีอาณาเขตรวมกว่า 70,000 เมตร ประกอบไปด้วยปราสาทหลัก พระราชวัง โบสถ์ และอื่นๆที่เก็บรวบรวมวัตถุทางประวัติศาสตร์ มีการผสมผสานทางสถานปัตยกรรม ตามยุคสมัยที่ได้บูรณะที่แห่งนี้นั้นเอง
ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ยังเป็น ที่ตั้งทำเนียบประธานาธิบดี ของสาธารณรัฐเช็กด้วยนั้นเอง ด้วยความเก่าแก่ของที่นี้ ทำให้มีประวัติเรื่องราวต่างๆมากมาย หลายสมัยให้เราได้ศึกษากันนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงปรากไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่อยู่ในเขตเมืองเก่าอันเป็นโซนคลาสสิค ของเมืองที่ดึงดูดการท่องเที่ยว มาอย่างยาวนานแล้วนั้นเอง
ปัจจุบันกรุงปรากเป็นอย่างไร?
ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่และยังเป็นศูนย์กลาง ทางวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่ง ของยุโรปตอนกลางนั้นเอง และยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ จวบจนมาถึงปัจจุบันนั้นเอง นอกจากนี้หลังจากประเทศสาธารณรัฐเช็ก ได้รับเอกราชหลังจากสหภาพโซเวียต ล่มสลายลงไปจึงทำให้ การฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้กลับมาเป็นศูนย์กลางอีกครั้ง เหมือนในอดีตนั้นเอง ปัจจุบันเมืองแห่งนี้เป็นเมือง ดึงดูดการท่องเที่ยวในประเทศอย่างมาก นักท่องเที่ยวทั่วทั้งยุโรป ต่างเดินทางมาเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ ของเมืองแห่งนี้ที่มีประวัติศาสตร์ มาอย่างยาวนานนั้นเอง
สรุปการท่องเที่ยวในกรุงปรากเป็นอย่างไร?
กรุงปรากนั้นเหมือนเป็นหัวใจสำคัญ ของประเทศสาธารณรัฐเช็ก มาอย่างยาวนานด้วยคนเชื้อสาย เช็ก ที่ถือว่าเป็นผู้อยู่อาศัยในดินแดนแห่งนี้ มาอย่างยาวนาน รวมถึงเมืองแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวม อารยธรรมต่างๆทั้งทางตะวันตก และตะวันออก เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ที่ดึงดูดความสวยงามของเมืองแห่งนี้ รวมถึงผังเมืองที่มีความคลาสสิค แบ่งโซนเมืองเก่าและใหม่ ออกกันอย่างชัดเจนและมีสถานที่ดึงดูด ให้กับนักท่องเที่ยว ได้สัมผัสกับความประทับใจของเมืองแห่งนี้นั้นเอง
จึงทำให้มองว่า กรุงปรากเป็นเมืองอีกแห่งหนึ่งในยุโรป ที่มีสิ่งที่น่าสนใจและดึงดูด ให้เมืองแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่ และเป็นที่รู้จักของใครหลายๆ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงสถาปัตยกรรมต่างๆ แสดงออกให้เห็นถึงความเจริญ ในหลายๆด้านที่ทำให้ประเทศอื่นๆ
ต้องเร่งพัฒนาตามๆกันนั้นเอง ในอดีตนั้นที่แห่งนี้นับว่าเป็น ศูนย์กลางทางการศึกษา จากทั่วทั้งยุโรปทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือดาราศาสตร์นั้นเอง หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ศึกษาวัฒนธรรมชมเมืองแล้วละก็ จะต้องชื่นชอบเมืองแห่งนี้อย่างแน่นอน